อนุสัญญาประเภท: วิธีทำให้ผู้อ่านใจจดใจจ่อโดยบรรลุความคาดหวัง

เมื่อคุณนั่งอ่านหนังสือ คุณคาดหวังประสบการณ์การเล่าเรื่องประเภทใดเป็นพิเศษหรือไม่? นี่เป็นความปรารถนาทั่วไป เนื่องจากผู้อ่านไม่ว่าจะรู้หรือไม่ก็ตาม ต่างก็ถูกดึงดูดเข้าหาแนวเพลงที่เฉพาะเจาะจงและแนวความคิดเกี่ยวกับประเภท

เข็มหมุด

จากมุมมองของนักเขียน การรู้จักประเภท "รสชาติ" เหล่านี้และวิธีสร้างประเภทดังกล่าวเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้อ่านเป็นกุญแจสำคัญในการเขียนเรื่องราวที่จะทำให้ผู้อ่านกลับมาอ่านเรื่อยๆ

นอกจากนี้ การทำความเข้าใจแนวปฏิบัติเกี่ยวกับประเภทและฉากบังคับจะช่วยให้คุณผลักดันตัวเองให้ไกลขึ้นและไปถึงที่สูงขึ้นเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และพลิกโฉมสิ่งที่เคยทำมาก่อน ผู้อ่านที่น่าอัศจรรย์ . . และแม้กระทั่งตัวคุณเอง!

วิธีการเขียนประเภทใจจดใจจ่อ

มีบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นกับฉันในการเขียนของฉันหลายครั้งจนฉันคาดหวังมากกว่าที่จะแปลกใจกับมัน นี่คือ:

ฉันได้วางแผน วางแผน และเขียนเรื่องราวส่วนใหญ่ของฉันแล้ว และฉันก็ใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว ฉันมีความคิดที่แน่วแน่ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร แต่ฉันปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่านเล็กน้อย และมุมมองใหม่สำหรับตอนจบก็กระโจนเข้าสู่มุมมอง โดยปกติ สิ่งที่ต้องมีคือการปรับแต่งเล็กน้อยในส่วนที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้เพื่อตั้งค่า และฉันได้เพิ่มมิติทั้งหมดให้กับเรื่องราว

ผู้อ่านระทึกขวัญคาดหวังว่าจะมีการหักมุมพิเศษเช่นนี้ก่อนบทสรุปของเรื่อง ตอนจบเท็จเป็นหนึ่งในฉากบังคับของแนวเพลง ถ้าฉันทิ้งตอนจบที่ผิดๆ ออกมาจากหนังระทึกขวัญ ฉันจะปล่อยให้ผู้อ่านไม่พอใจในตอนท้ายของหนังสือ และพวกเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไม

พวกเขาจะไม่ย้ายไปที่หนังสือเล่มต่อไปของฉันและฉันก็สูญเสียผู้อ่าน ฉันไม่เคยต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น และคุณก็ไม่เช่นกัน

มาดูกันดีกว่าว่าผู้อ่านกำลังมองหาอะไรเมื่อพวกเขาหยิบหนังสือแนวระทึกขวัญ

หมายเหตุ: ฉันได้ดึงข้อมูลนี้ส่วนใหญ่มาจาก Shawn Coyne ผู้เขียน The Story Grid: What Good Editors Know

อารมณ์ประเภทลึกลับ

ตามที่ Shawn Coyne ได้กล่าวไว้ ผู้อ่านอารมณ์ความรู้สึกหลักที่ต้องการสัมผัส — เหตุผลที่พวกเขาสร้างเรื่องราวลึกลับและอาชญากรรมที่พวกเขาเลือกประเภท — เป็นเรื่องที่น่า สนใจ พวกเขาต้องการถูกท้าทายด้วยปริศนาที่เร้าใจและได้รับโอกาสในการไขปริศนาไปพร้อมกับสำรวจชีวิตและความสัมพันธ์ของตัวละครที่มีส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมที่น่าสนใจ

ปริศนามักเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งสามารถทำให้เกิดความรู้สึกกลัวและเป็นห่วงตัวละคร และความละเอียดของเรื่องควรนำมาซึ่งความรู้สึกสมหวังหรือแปลกใจ รวมถึงการคลายความตึงเครียดที่น่าพึงพอใจเมื่อคนร้ายถูกนำตัวขึ้นศาล

หากความลึกลับนี้ไม่ใช่การฆาตกรรมแบบ “วูดูนิต” แต่เป็นการฆาตกรรมหรือการปล้น ผู้อ่านอาจเชียร์ผู้กระทำความผิดและรู้สึกวิตกกังวลว่าพวกเขาจะหนีรอดหรือไม่

คุณสามารถช่วยสร้างอารมณ์เหล่านี้ให้กับผู้อ่านปริศนาของคุณได้โดยการสร้างตัวละครที่พวกเขาสนใจ การออกแบบปริศนาที่น่าสนใจด้วยเบาะแสและปลาเฮอริ่งแดงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยส่งข้อมูลทั้งหมดตามลำดับที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้อ่านไขคดีหรือสัมผัสเรื่องราวพร้อมกับตัวละครในมุมมอง

อนุสัญญาประเภทลึกลับ

แบบแผนประเภทคือสิ่งที่ผู้อ่านคาดหวังว่าจะพบในเรื่องจากประเภทใดประเภทหนึ่ง หากองค์ประกอบไม่ปรากฏในเรื่อง ผู้อ่านจะผิดหวังโดยไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะรวมข้อตกลงเหล่านี้ไว้ในเรื่องราวลึกลับของคุณ

The MacGuffin

MacGuffin ในความลึกลับเป็นสิ่งที่ตัวละคร Object of Desire ไล่ตาม และมันขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าเมื่อการไล่ตามคลี่คลาย มันสามารถเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น สมบัติหรือข้อความที่เข้ารหัส—ตัวอย่างคือ เหยี่ยวมอลตา ในชื่อนั้น หรืออาจเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เช่น ความรู้ลับหรือการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เช่น ภารกิจของ Roger Thornhill ใน North By Northwest

ในคดีฆาตกรรมปริศนา แมคกัฟฟินมักเป็นผู้แก้ปัญหาอาชญากรรม

เบาะแสและปลาเฮอริ่งแดง

ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่นักสืบได้รับซึ่งส่งไปตามสายการสืบสวน เบาะแสหากตีความอย่างถูกต้องนำไปสู่การแก้ปัญหาในขณะที่ปลาเฮอริ่งแดงนำไปสู่จุดจบหรือข้อสรุปที่ผิดพลาด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบาะแสและปลาเฮอริ่งแดง และวิธีการสร้างและปลูกมันในเรื่องราวของคุณ โปรดดูที่ Ultimate Guide to Clues and Red Herrings

ศัตรูทำให้เป็นเรื่องส่วนตัว

เมื่อนักสืบตัวเอกเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น อาชญากรก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง ศัตรูจะเผยเรื่องส่วนตัว นี่อาจหมายถึงอะไรก็ได้ตั้งแต่การแทรกแซงการสืบสวนและการวางเบาะแสเท็จเพื่อทำให้ตัวเอกเข้าใจผิด ไปจนถึงการพยายาม "ชน" ตัวเอกโดยสิ้นเชิง

แปลงร่าง

ใครบางคน ที่ไหนสักแห่งในแนวเดียวกัน ถูกเปิดเผยว่าเป็นผู้เปลี่ยนร่าง คนหน้าซื่อใจคด หรือคนทรยศ นี่เป็นตัวละครรองที่พูดสิ่งหนึ่งและทำอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งส่งผลต่อความก้าวหน้าของตัวเอกในการไขปริศนา

การหักหลังไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นต้องเลวร้ายไปกว่านี้ ศัตรูที่เห็นได้ชัดสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นพันธมิตรเป็นต้น

นาฬิกา

แม้ว่าความลึกลับจะไม่ใช้แรงกดดันด้านเวลาแบบเดียวกับในหนังระทึกขวัญ แต่ถ้าไม่มีนาฬิกาเคลื่อนไปข้างหน้า เรื่องราวก็อาจล่องลอยและหย่อนยานได้ การจำกัดเวลาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการทำให้เรื่องราวลึกลับมีความสดใหม่ คล่องแคล่ว และมุ่งไปสู่การแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่ผู้อ่านและนักเขียนต่างพึ่งพาอาศัยกันในแนวลึกลับ

ภัยคุกคามที่ชัดเจนของการเพิ่มอันตราย

อันตรายนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นจริง มันสามารถทำลายความน่าเชื่อถือ ความมีสติ หรือศักดิ์ศรีของนักสืบได้ หรือภัยคุกคามอาจส่งผลกระทบอย่างอื่นที่สำคัญ ภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้นนี้ทำให้เกิดความเสี่ยง ทำให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมทางอารมณ์ และช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้า

อนุสัญญาทั้งหกของประเภทอาชญากรรมซึ่งรวมถึงความลึกลับถูกกำหนดโดยบรรณาธิการ Rachelle Ramirez ในบทความของเธอ วิธีเขียนเรื่องราวอาชญากรรม

มาต่อกันที่ฉากบังคับกัน

ฉากบังคับของประเภทความลึกลับ

เมื่อสร้างเรื่องราวลึกลับ อย่าลืมรวมฉากสำคัญเหล่านี้ไว้ในการวางแผนของคุณ หากไม่มีพวกเขา ความลึกลับของคุณอาจจะไม่สะท้อนกับแฟน ๆ ของประเภทอาชญากรรม ช่วงเวลาอันเป็นสัญลักษณ์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องมีฉากของตัวเอง แต่อาจนำมารวมกันเมื่อเรื่องราวดำเนินไป

อาชญากรรมหรือการคุกคามของอาชญากรรม

ตามรายงานของทั้ง Alfred Hitchcock และ Ellery Queen Mystery Magazine หน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องนี้มาอย่าง ยาวนาน นี่คือคำจำกัดความของเรื่องราวลึกลับ จะต้องมีอาชญากรรมหรือการคุกคามที่น่าเชื่อถือของอาชญากรรม โดยปกตินี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นใน Incident Incident ของเรื่อง

การสอบสวน

นักสืบซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องราวของคุณต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรมและนำผู้กระทำความผิดไปสู่กระบวนการยุติธรรม หรือออกกฎหมายทางเลือกอื่นที่น่าพอใจ หากเรื่องราวเป็นโจรสลัดหรือปล้น แผนจะต้องเปิดเผยและนำไปสู่การจับกุมหรือหลบหนีของโจร

สุนทรพจน์ยกย่องศัตรู

นี่เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเป็นทางการเท่าคำพูดจริง แต่มันมีตัวละครที่ชี้ให้เห็นถึงความกล้าหาญของศัตรูหรือความเหนือกว่าที่เห็นได้ชัดในบางวิธี อาจเป็นการเตือนนักสืบหรือตัวละครรองชื่นชมศัตรู

ตัวเอกค้นพบ MacGuffin ของศัตรู

เมื่อถึงจุดหนึ่งของเรื่อง นักสืบก็เข้าใจการไล่ตามหลักของอาชญากร—สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ ตัวอย่างเช่น แรงจูงใจเบื้องหลังอาชญากรรมอาจชัดเจน ซึ่งแสดงถึงการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการแก้ไขปัญหา

กลยุทธ์เริ่มต้นล้มเหลว

เรื่องราวที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยตัวละครในสภาพแวดล้อมที่มีปัญหา จากที่นั่น พวกเขาเข้าสู่ชุดของวงจรการลองผิดลองถูกจนกระทั่งถึง “การลอง” ที่สุดของจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง ดังนั้น ความพยายามครั้งแรกจะต้องล้มเหลว ทำให้ตัวเอกต้องเปลี่ยนกลยุทธ์แล้วลองอีกครั้ง และอีกครั้ง.

เหตุการณ์สำคัญในฉากไคลแม็กซ์

ในความลึกลับ เหตุการณ์หลักเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยอาชญากรและการเปิดเผยวิธีการแก้ปัญหาอาชญากรรม—อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นและวิธีที่ความจริงถูกค้นพบ

ในกรณีของการโจรกรรมหรือการโจรกรรม เหตุการณ์หลักคือการบังคับใช้แผน—นำทุกอย่างไปสู่การปฏิบัติและมุ่งไปสู่ความสำเร็จหรือความล้มเหลว

อาชญากรถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ฉากบังคับสุดท้ายซึ่งอาจเกิดขึ้นหรืออาจไม่เกิดขึ้นในช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องคือการนำอาชญากรไปสู่กระบวนการยุติธรรมหรือการแก้ปัญหาที่น่าพอใจพอๆ กัน

ในกรณีของการกระโดดโลดเต้นหรือการปล้น นี่คือจุดที่ตัวเอกทำสำเร็จและหนีไปหรือถูกจับได้

จำไว้ว่าผู้อ่านต้องการรู้สึกทึ่งกับความลึกลับนี้ อย่าลืมนำเสนอปริศนาที่ท้าทายและน่าสนใจและส่งมอบชิ้นส่วนทั้งหมดให้ผู้อ่านได้ข้อสรุปที่น่าพึงพอใจ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความลึกลับ ดูวิธีการเขียนนวนิยายลึกลับ

อารมณ์ของประเภทใจจดใจจ่อ

นักอ่านใจจดใจจ่ออ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความรู้สึก . . ใจจดใจจ่อ ความไม่แน่นอนที่มาพร้อมกับการรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นใต้ผิวน้ำ แต่เพียงได้รับคำแนะนำว่ามันคืออะไร

เหล่านี้เป็นเรื่องราวที่รบกวนจิตใจของคุณ

ประเภทที่ต้องใจจดใจจ่ออยู่บนพรมแดนระหว่างความลึกลับและความสยองขวัญ มันเกี่ยวข้องกับการรวมเข้าด้วยกัน—ไม่จำเป็นต้องเป็นอาชญากรรม เช่นเดียวกับในความลึกลับ—ภาพที่ใหญ่กว่าของความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่ คุณมักจะเห็นหนังสือประเภทเหล่านี้จัดอยู่ในประเภทระทึกขวัญทางจิตวิทยา แต่ฉันจัดประเภทหนังสือเหล่านั้นแตกต่างกันเนื่องจากหนังระทึกขวัญต้องการจังหวะที่รวดเร็วอย่างไม่ลดละ ในขณะที่ความระทึกใจสามารถเคลื่อนไปตามจังหวะที่หลากหลาย

ตัวอย่างเช่น เรื่องที่น่าสงสัยที่สุดเรื่องหนึ่งที่เคยเขียนมาคือ Rebecca ของ Daphne DuMaurier เต็มไปด้วยความสงสัยและความรู้สึกอันตรายที่ซ่อนอยู่ กระนั้นก็ตาม มันเคลื่อนไปอย่างสบายๆ ผ่านห้องโถงมืดสลัวของ Manderley

จำไว้ว่าอัลเฟรด ฮิตช์ค็อกคือปรมาจารย์แห่งความใจจดใจจ่อ และคุณจะมีความคิดที่ยุติธรรมเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ชื่นชอบการดึงดูดใจกำลังมองหา เพื่อช่วยให้คุณพัฒนาอารมณ์ประเภทนี้ในผู้อ่านของคุณ ให้พยายามสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมสำหรับความใจจดใจจ่อ เน้นเทคนิคการดึงผู้อ่านเข้าสู่ฉากและเหตุการณ์ล่วงหน้า

อนุสัญญาประเภทใจจดใจจ่อ

เนื่องจากความลึกลับ ระทึกขวัญ และความสงสัยมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด พวกเขาจึงมีข้อตกลงและฉากบังคับมากมาย ในส่วนนี้ ฉันจะย้ำเมื่อจำเป็น แต่เน้นที่ความแตกต่างระหว่างแนวปฏิบัติของประเภท

บรรยากาศที่น่ากลัว

การตั้งค่าเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องราวใจจดใจจ่อ บรรยากาศที่น่าสยดสยองดึงดูดใจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอารมณ์และความตึงเครียดที่ผู้อ่านชื่นชอบ การตั้งค่าอาจหนาโดยมีลางสังหรณ์หรือสว่างเพียงผิวเผินด้วยตัวบ่งชี้ที่ทำให้ไม่สงบที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เห็น

แผนลับ

ศัตรูที่ไม่รู้จักกำลังกลั่นแกล้งสิ่งที่ชั่วร้ายภายใต้พื้นผิวของเรื่องราวที่ตัวเอกพยายามจะเปิดเผย

ไม่รู้จะไว้ใจใคร

ฮีโร่ของเรื่องจะถูกห้อมล้อมไปด้วยตัวละครรอง แต่เธอจะมีข้อสงสัยว่าเธอสามารถพึ่งพาใครได้บ้างและตัวไหนที่พยายามทำร้ายเธอ นี่คือภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลักของนวนิยายใจจดใจจ่อ

มันเป็นเรื่องส่วนตัว

ในเรื่องลึกลับหรือระทึกขวัญ ศัตรูทำให้ฮีโร่ของเขาเป็นเป้าหมายในบางช่วงของความคืบหน้าของเรื่องราว ในเรื่องที่ต้องสงสัยมันเป็นเรื่องส่วนตัวเสมอ ในกรณีส่วนใหญ่ ฮีโร่เป็นเป้าหมายตั้งแต่เริ่มต้น

เบาะแสและปลาเฮอริ่งแดง

ในเรื่องลึกลับ ตัวเอกจะรวบรวมข้อมูลเพื่อช่วยให้เธอสร้างภาพที่ถูกต้องของสิ่งที่เกิดขึ้น ในความลึกลับ เบาะแสโดยทั่วไปจะช่วยไขคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ด้วยความสงสัย ชิ้นส่วนต่างๆ นำฮีโร่ให้ค้นพบแผนการชั่วร้ายที่กำลังดำเนินอยู่หรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

หุ่นจำลอง

เช่นเดียวกับความลึกลับ เรื่องราวที่น่าสงสัยจะมีผู้เปลี่ยนร่างอย่างน้อยหนึ่งตัว—ตัวละครที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งหนึ่ง แต่ยังพิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างอื่น จำไว้ว่าผู้แปลงร่างไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจากดีไปหาไม่ดี แต่อาจเป็นคนที่ตัวเอกคิดว่าต่อต้านเธอซึ่งกลายเป็นพันธมิตร

เดิมพันสูง

ความเสี่ยงต่อตัวเอกจะต้องเป็นจริงและสำคัญ—มักจะขึ้นอยู่กับชีวิตหรือความตาย และเดิมพันเหล่านั้นควรเพิ่มขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินไป ขอบเขตของความเสี่ยงนั้น—หมายถึงผลที่ตามมาของฮีโร่ที่ล้มเหลวในการค้นหาความจริง—ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในระดับล่างสุดของมาตราส่วน ส่งผลกระทบต่อตัวเอกหรือกลุ่มผู้ติดต่อเล็กๆ เท่านั้น

ฉากบังคับของประเภทใจจดใจจ่อ

ฉากเหล่านี้แสดงถึงช่วงเวลาที่ต้องมีในเรื่องที่ต้องสงสัย ทิ้งพวกเขาไว้ และคุณอาจเสี่ยงที่จะสูญเสียผู้อ่านที่รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ขาดหายไปจากหนังสือของคุณ

ฮีโร่ที่ติดอยู่ในอันตรายแฉ

คุณต้องให้เหตุผลที่น่าสนใจแก่ตัวเอกในการอยู่ในสถานการณ์อันตรายและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่สามารถหันหลังกลับได้อย่างไร ข้ามจุดที่ไม่มีวันหวนกลับ

การสอบสวน

ตัวเอกของคุณจะต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอและจัดทำแผนการหลบหนี

กลยุทธ์เริ่มต้นล้มเหลว

เช่นเดียวกับเรื่องราวที่มีประสิทธิภาพทั้งหมด เมื่อตัวละครอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีปัญหา ความพยายามครั้งแรกในการเอาชนะปัญหาของเธอล้มเหลว และเธอถูกบังคับให้ต้องแย่งชิงแผนใหม่ ซึ่งมักจะเสี่ยงต่อตัวเธอเองเมื่อมีเงินเดิมพันเพิ่มขึ้น

เหตุการณ์สำคัญในฉากไคลแม็กซ์

เหตุการณ์สำคัญของความสงสัยอยู่ที่ตัวฮีโร่ที่เปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังและทำลายแผนชั่วร้ายหรือหลบหนีจากเงื้อมมือของมัน หรืออาจจะไม่ ความใจจดใจจ่อไม่ได้จบลงอย่างมีความสุขเสมอไป แม้ว่าผู้อ่านจะชอบมันมากกว่าก็ตาม

ระงับมติ

บ่อยครั้ง (แต่ไม่เสมอไป) ในเรื่องที่ต้องสงสัย ตอนจบถูกทิ้งไว้กลางอากาศ ซึ่งเป็นบทสรุปที่คลุมเครือ ผู้อ่านต้องตัดสินใจผลลัพธ์สุดท้ายด้วยตนเองหรือถูกระงับตลอดกาลด้วยความไม่แน่นอน สิ่งนี้สอดคล้องกับน้ำเสียงที่ไม่มั่นคงและน่าอึดอัดโดยรวมของเรื่องราว และปล่อยให้ความเป็นไปได้สำหรับภาคต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เรื่องราวใจจดใจจ่อและความแตกต่างจากความลึกลับและระทึกขวัญ ฉันขอเชิญคุณอ่าน วิธีการเขียนนวนิยายใจจดใจจ่อ

อารมณ์ระทึกขวัญ

ผู้อ่านดำดิ่งสู่ความระทึกขวัญโดยคาดหวังว่าจะรู้สึกตื่นเต้น สัมผัสกับอันตรายและความตื่นเต้นโดยไม่ต้องเสี่ยง พวกเขาต้องการแรงกระตุ้นในการเดินทางไปที่ไกลๆ สถานที่แปลกตาโดยไม่ต้องออกจากบ้าน เสียงกระหึ่มของการเป็นองคมนตรีสู่ความลับที่สำคัญ การกระโดดสูงอย่างแทบหยุดหายใจจากการหลบหนีอันคับแคบแห่งหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยที่ยังปลอดภัย พวกเขาต้องการเรื่องราวการกระทำ

เรื่องระทึกขวัญเช่นเรื่องราวอาชญากรรมก็เล่นในความรู้สึกของผู้อ่านในเรื่องความยุติธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต ระทึกขวัญมักจะเจาะคนเลวกับผู้ชายที่ดีและนำผู้ชายที่ดีออกมาด้านบน นั่นคือเสน่ห์หลักของหนังระทึกขวัญ

และผู้อ่านต้องการอะไรเพิ่มเติมจากหนังระทึกขวัญ—พวกเขาต้องการรู้ว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้อาศัยอยู่ในโลกบางประเภท นั่นเป็นเหตุผลที่มีประเภทย่อยของหนังระทึกขวัญมากมาย—เพื่อให้อารมณ์และความรู้สึกที่ผู้อ่านปรารถนาในแต่ละสภาพแวดล้อม

ตัวอย่างเช่น นอกเหนือจากการดึงดูดทางอารมณ์ที่ระบุไว้ข้างต้น . .

• ระทึกขวัญ จารกรรม และ สายลับ ช่วยให้ผู้อ่านได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของการวางอุบายระดับนานาชาติ กลวิธีอันชาญฉลาด และการทำลายกฎเพื่อบรรลุเป้าหมายสุดท้ายที่สำคัญ
• ภาพยนตร์ระทึกขวัญจากภัยพิบัติ ช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกถึงความหวาดกลัวและการทำลายล้างที่เกิดขึ้นแทน ทำให้พวกเขามีโอกาสคาดเดาว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้
• ภาพยนตร์ระทึกขวัญทางทหาร เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้สัมผัสกับความกลัว โศกนาฏกรรม ความรุนแรงในสงครามที่ใกล้ชิด ตลอดจนอารมณ์ที่ปลุกเร้าของความกล้าหาญและความรักชาติ
• นักเทคโนโลยีระทึกขวัญ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนเป็นคนวงในของข้อมูลทางการทหารและเทคโนโลยีที่ได้รับการปกป้อง เหมือนกับว่าพวกเขามีความลับสุดยอดในการเข้าถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ
• หนังระทึกขวัญทางกฎหมาย นำผู้อ่านเข้าสู่อุบายอันน่าทึ่งของระบบกฎหมาย ปล่อยให้พวกเขามีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาคดีที่มีชื่อเสียง (แม้ว่าจะเป็นเรื่องสมมติ) และรู้สึกถึงความทุกข์ระทมและศักดิ์ศรีที่เกี่ยวข้อง
• หนังระทึกขวัญทางการเงิน ทำให้ผู้อ่านได้สัมผัสถึงตราประทับของความมั่งคั่งและพลังที่มาพร้อมกับมัน และสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนรวยและคนดัง
• หนังระทึกขวัญฆาตกรต่อเนื่องทำให้ ผู้อ่านรู้สึกถึงความตายและมองเข้าไปในจิตใจที่บ้าคลั่งจนพวกเขาไม่มีวันเข้าใจ
• การแพทย์และหนังระทึกขวัญ น่ากลัวในระดับพื้นฐานที่พวกเขาสร้างความรู้สึกของความอ่อนแอของมนุษย์และความหลงใหลที่ทำอะไรไม่ถูก
• หนังระทึกขวัญการเมืองทำให้ เกิดความกลัวที่รุนแรงเช่นกัน เชิญชวนให้เกิดความหวาดระแวงของทฤษฎีสมคบคิดและการยึดครองของรัฐบาล
• หนังระทึกขวัญอาถรรพณ์ ช่วยให้ผู้อ่านถูกล่อลวงโดยโลกอื่นและอธิบายไม่ได้ ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

คุณสามารถส่งเสริมอารมณ์เหล่านี้ให้กับผู้อ่านของคุณได้โดยการดึงอารมณ์เหล่านี้ให้ลึกลงไปในบริบทของเรื่องราว ทำให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งที่อยู่ในความเสี่ยง จัดเตรียมฉากแอคชั่นที่มีประสิทธิภาพและน่าตื่นเต้น และการให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับผู้เล่นที่กระตือรือร้นในการอ่านประสบการณ์

การออกแบบความตื่นเต้นที่ได้ผลเป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการปลุกอารมณ์เป้าหมายให้กับผู้อ่านระทึกขวัญของคุณ

อนุสัญญาประเภทเขย่าขวัญ

คุณจะสังเกตเห็นการครอสโอเวอร์มากมายในการประชุมและฉากบังคับ ในส่วนนี้ ฉันได้อ้างอิงบทความของ Rachelle Ramirez เรื่อง Secrets of the Thriller Genre อย่างหนัก

นี่คือข้อตกลงที่คุณต้องการรวมไว้ในเรื่องราวของคุณหากคุณกำลังเขียนเรื่องระทึกขวัญ ผู้อ่านต้องการพวกเขา ผู้อ่านคาดหวังพวกเขา อย่าทำให้ผิดหวัง

บรรยากาศที่สดใส

ฉากนี้เป็นส่วนสำคัญของหนังระทึกขวัญและควรแสดงให้เห็นในรายละเอียดที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง ทำให้มันมีชีวิตและทำให้มันคุกคามทันที

The MacGuffin

จำไว้ว่านี่คือเป้าหมายของความปรารถนา สิ่งที่ทุกคนตามหา รหัสนิวเคลียร์, เพชร, เงินสดที่เย็นจัด—ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ทำให้มันจำเป็นสำหรับทั้งตัวศัตรูและตัวเอกในการได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นบ่อเกิดต่อกันและกัน

อาชญากรรมที่ปลุกเร้า

อาชญากรรมหรือการคุกคามของอาชญากรรมที่เริ่มต้นเรื่องราวต้องมีเงื่อนงำบางอย่างเกี่ยวกับ MacGuffin

พระเอกมีของขวัญพิเศษ

มีบางอย่าง—พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษ—ที่ทำให้ตัวเอกแตกต่าง มหาอำนาจของเขา เขาอาจจะกดขี่ข่มเหงของขวัญนั้นหรือเลี้ยงดูมัน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องปลดปล่อยมันออกมาเพื่อเอาชนะคนร้าย

ติ๊กนาฬิกา

จังหวะของหนังระทึกขวัญนั้นเร็วมากอย่างไม่ลดละ และการนับถอยหลังถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเป็นนาฬิกาบอกเวลาที่แท้จริง แต่คุณต้องหาวิธีที่สมเหตุสมผลเพื่อใช้แรงกดดันของเวลาในภาพยนตร์ระทึกขวัญของคุณ

พระเอกออกสืบสวน

ฮีโร่ต้องมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความพยายามที่จะจับคนร้ายและหยุดแผนการขี้ขลาดของเขา—ติดตามเบาะแสและตามล่าหรือถูกตามล่า

เดิมพันสูง

ไม่มีอะไรน้อยไปกว่าชีวิตที่สามารถอยู่บนเส้น ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ต้องตกอยู่ในอันตรายและขึ้นอยู่กับชัยชนะของวีรบุรุษเหนือผู้เป็นปฏิปักษ์

องค์ประกอบของความใจจดใจจ่อ

เรื่องราวต้องมีองค์ประกอบของความสงสัย โดยให้ข้อมูลที่ช่วยให้ผู้อ่านสามารถคาดการณ์และคาดการณ์ผลลัพธ์ เพิ่มการลงทุนทางอารมณ์ และขับเคลื่อนการเล่าเรื่อง

ศัตรูตัวฉกาจ

ในเรื่องราวบางประเภท คนเลวสามารถให้เหตุผลและอาจถูกกีดกันจากการกระทำของเขา ในหนังระทึกขวัญนั่นไม่ใช่กรณี คนร้ายตั้งใจที่จะทำลายล้างและตัดสินใจว่าจะไม่มีอะไรหยุดเขาได้

พูดชมคนร้าย

ใครบางคนในเรื่องนี้จะต้องสังเกตว่าคนร้ายมีเล่ห์เหลี่ยมหรืออยู่ยงคงกระพันเพียงใด โดยเน้นที่ข้อเสียของฮีโร่และขยายโอกาสให้ยาวขึ้น

พระเอกคือเหยื่อรายสุดท้าย

ในฉากไคลแม็กซ์ ตัวเอกคืออุปสรรคสุดท้ายระหว่างตัวร้ายกับเป้าหมายในการทำลายล้าง—เขากลายเป็นเหยื่อรายสุดท้ายและไม่ว่าจะมีชัยหรือล้มเหลวในท้ายที่สุด

ภัยคุกคามที่ชัดเจนของการเพิ่มอันตราย

ไม่เพียงแต่จะมีอันตราย ไม่เพียงแต่เงินเดิมพันสูงเท่านั้น แต่อันตรายนั้นยังต้องบานปลายและเดิมพันต้องเพิ่มขึ้นในห่วงโซ่ของเหตุและผลตลอดทั้งเรื่อง

The Shapeshifter

อีกครั้ง ผู้เปลี่ยนร่างหรือคนหน้าซื่อใจคดเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว ใครบางคนที่การหลอกลวงส่งผลกระทบต่อตัวเอกในทางที่แท้จริงและมักจะอยู่ในช่วงเวลาที่เปราะบาง

ความยุติธรรมหรือความอยุติธรรมมีชัย

ในหนังระทึกขวัญที่จบลงด้วยดี คนร้ายถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสมกับอาชญากรรมของเขา ในหนังระทึกขวัญที่จบลงด้วยแง่ลบ คนร้ายหนีไปได้และเกิดความอยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สองทางเลือกเท่านั้น: คนร้ายสามารถหลบหนีความยุติธรรมได้ (ในตอนนี้) แต่แผนการชั่วร้ายของเขาจะถูกทำลาย เขาจะกลับมาอีกครั้งพร้อมแผนใหม่ในภาคต่อ

ฉากบังคับของแนวระทึกขวัญ

จำไว้ว่านี่คือฉากที่จะทำให้หนังระทึกขวัญของคุณ หากคุณทิ้งหนึ่งไว้ คุณจะทำลายหนังระทึกขวัญของคุณ อย่าทำอย่างนั้น

ปลุกระดมอาชญากรรมที่ระบุว่าจอมวายร้ายกำลังทำงานอยู่

อาชญากรต้องมีผู้กระทำผิด ปล่อยให้เหยื่อตกเป็นเหยื่อ และมีรูปแบบที่ฉลาดหรือขี้ขลาดจนต้องเป็นฝีมือของอาชญากรหลัก

จุดที่ชัดเจนของการไม่คืน

ต้องมีจุดที่ตัวเอกไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ ฉากนี้ชี้ให้เห็นช่วงเวลาที่โลกของฮีโร่ถูกกระแทกจากแกนของมัน

กลยุทธ์เริ่มต้นล้มเหลว

ความพยายามครั้งแรกของตัวเอกในการขัดขวางแผนการร้ายกาจของวายร้ายล้มเหลว ทำให้เกิดวงจรการลอง/ล้มเหลวที่บานปลายไปถึงฉากไคลแมกซ์

ตัวเอกค้นพบ MacGuffin ของศัตรู

ฮีโร่ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเจตนาของคนร้ายในขณะที่เขาค้นพบและเข้าใจว่าคนเลวกำลังไล่ตามในท้ายที่สุด

คนร้ายทำให้มันเป็นเรื่องส่วนตัว

เมื่อถึงจุดหนึ่งขณะที่เรื่องราวดำเนินไป ความพยายามของตัวเอกในการขัดขวางแผนของวายร้ายก็ทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตา ศัตรูมุ่งเป้าไปที่ฮีโร่ในฐานะเหยื่อหลักของเขา นำความขัดแย้งไปสู่ระดับส่วนบุคคล และทั้งสองอยู่ในเส้นทางปะทะกันเพื่อต่อสู้แบบตัวต่อตัวที่จุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง

ฮีโร่ในความเมตตาของวายร้าย

นี่คือฉากไคลแม็กซ์ที่พระเอกต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายด้วยโอกาสที่เลวร้ายและต้องขุดให้ลึกกว่าที่เคยเป็นมาเพื่อปลดปล่อยของขวัญพิเศษของเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนตารางและทำให้เธอสามารถเอาชนะศัตรูได้

ตอนจบเท็จ

ขณะที่ผู้อ่านหายใจไม่ออกและคิดว่าทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว กองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์ก็เด้งกลับมาท้าทายฮีโร่อีกครั้ง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู วิธีการเขียนนวนิยายเขย่าขวัญ

มอบสิ่งที่พวกเขาปรารถนาให้ผู้อ่านของคุณ

ฉากสำคัญเหล่านี้จะทำให้เรื่องราวของคุณมีสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้อ่านและพึงพอใจ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้หนังสือของคุณโดนใจ ทำให้ผู้ชมของคุณมีความสุข เพราะองค์ประกอบพื้นฐานของเรื่องราวเหล่านั้นอยู่ใน DNA ของผู้อ่าน ซึ่งได้รับการฝึกฝนและบ่มเพาะผ่านเรื่องราวที่น่าดึงดูดใจมานานหลายปี

ดังนั้น ใช้ข้อตกลงและฉากบังคับเหล่านี้เพื่อทำให้เรื่องราวของคุณเป็นจริง เคล็ดลับคือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกสดชื่น นำเสียงและความคิดสร้างสรรค์ของคุณมาสู่กระบวนการเพื่อทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

เหนือสิ่งอื่นใด จำไว้ว่าผู้อ่านอ่านเพื่อสัมผัสบางอย่าง และสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้สึกจากประเภทที่ต้องสงสัย . . ใจจดใจจ่อ และหน่ออันรุ่งโรจน์ทั้งหมด—ความตื่นเต้น, ความกลัว, ความคาดหมาย, การวางอุบาย

หากคุณได้ติดตามบทความชุดนี้ The Elements of Suspense คุณได้รวบรวมกล่องเครื่องมือสำหรับนักเขียนของคุณด้วยเทคนิคและทักษะที่ต้องมีสำหรับการดึงดูดผู้อ่านและสร้างเรื่องราวที่น่าสงสัย และที่น่าตื่นเต้น!

แล้วคุณล่ะ? คุณรู้จักธรรมเนียมปฏิบัติและฉากเหล่านี้ในเรื่องที่คุณอ่านหรือดูหรือไม่ บอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ในความคิดเห็น